บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางแบบไหน ที่รีไซเคิลไม่ได้?

💄✨ บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางแบบไหน ที่รีไซเคิลไม่ได้? มาดูกัน! 💔♻️

สวัสดีค่ะสาวๆ ทุกคน! 💖 เรื่องความสวยความงามกับเครื่องสำอางเป็นของคู่กันเนอะ แต่เคยสงสัยไหมคะว่าพอเราใช้เครื่องสำอางหมดแล้ว บรรจุภัณฑ์สวยๆ เหล่านั้นมันไปไหนต่อ? แล้วมีแบบไหนบ้างที่อาจจะกลายเป็นขยะโดยไม่รู้ตัว เพราะรีไซเคิลไม่ได้? 😱 วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจเรื่องนี้กันแบบเข้าใจง่าย สไตล์เพื่อนสาวชวนคุย พร้อมทริคดีๆ ที่จะช่วยให้เราสวยด้วย รักษ์โลกด้วย ไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ!

🚫 1. พลาสติกบางชนิด…Say Goodbye ตั้งแต่แรกเห็น!

พลาสติกเนี่ยมีหลายชนิดมากๆ เลยนะคะซิส บางชนิดก็เป็นมิตรกับการรีไซเคิล แต่บางชนิดก็แอบเป็นตัวร้าย ทำให้น้องๆ บรรจุภัณฑ์ของเราต้องถูกส่งไปฝังกลบอย่างน่าเสียดาย มาดูกันดีกว่าว่ามีพลาสติกประเภทไหนบ้างที่เราควรจะโบกมือลา ถ้าอยากจะช่วยโลก

• PVC (Polyvinyl Chloride) หรือ V (Vinyl) เบอร์ 3

• เจอน้องได้ที่ไหนบ้าง? อาจจะเจอในแพ็กเกจจิ้งแบบบลิสเตอร์แพ็ค (พลาสติกใสๆ ที่ซีลทับกระดาษแข็ง) หรือท่อบางชนิดที่ใช้ในทางการแพทย์
• ทำไมรีไซเคิลยาก? น้อง PVC เนี่ย เวลาเอาน้องไปรีไซเคิล อาจจะปล่อยสารเคมีอันตรายออกมาได้ โรงรีไซเคิลส่วนใหญ่เลยไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าน้องจะมีความทนทานดี แต่ก็แอบเป็นตัวปัญหานิดนึงค่ะ
• PS (Polystyrene) หรือ Styrofoam เบอร์ 6

• เจอน้องได้ที่ไหนบ้าง? โฟมกันกระแทกในกล่องพัสดุเครื่องสำอาง หรือถ้วย จาน ชามแบบใช้แล้วทิ้ง ในเครื่องสำอางอาจจะไม่ได้เจอบ่อยในตัวบรรจุภัณฑ์หลัก แต่ก็อาจมีส่วนประกอบกันกระแทกที่ทำจากโฟมค่ะ
• ทำไมรีไซเคิลยาก? โพลีสไตรีน หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อโฟมเนี่ย รีไซเคิลยากมากกก แถมยังอาจปล่อยสารพิษที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย น้ำหนักเบาก็จริง แต่ย่อยสลายยากสุดๆ ไปเลย
• LDPE (Low-Density Polyethylene) เบอร์ 4

• เจอน้องได้ที่ไหนบ้าง? ถุงพลาสติกหูหิ้ว ฟิล์มห่อของ หรือหลอดบีบบางชนิด
• ทำไมรีไซเคิลยาก? ถึงแม้ว่า LDPE บางประเภทจะสามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นได้บ้าง เช่น ถุงขยะ แต่โดยทั่วไปแล้วน้อง LDPE มักจะไม่ค่อยถูกนำมารีไซเคิลเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะความยืดหยุ่นสูงและบางครั้งก็ยากต่อการจัดการในกระบวนการรีไซเคิลค่ะ
• อื่นๆ  เบอร์ 7🤷‍♀️

• เจอน้องได้ที่ไหนบ้าง? เป็นการรวมมิตรพลาสติกหลายชนิดที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม 1-6 เช่น อะคริลิค, ไนลอน, โพลีคาร์บอเนต บางทีขวดนมเด็กหรือกล่องอิเล็กทรอนิกส์ก็ใช้พลาสติกกลุ่มนี้ ในเครื่องสำอาง อาจเจอในตลับใสๆ แข็งแรง หรือส่วนประกอบบางชิ้นที่ต้องการความทนทานพิเศษค่ะ
• ทำไมรีไซเคิลยาก? เพราะเป็น “รวมมิตร” นี่แหละ! การที่มีพลาสติกหลายแบบปนกัน ทำให้แยกชนิดยากมาก และแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติการหลอมเหลวต่างกัน ทำให้รีไซเคิลด้วยกันไม่ได้ การที่พลาสติกกลุ่มนี้ไม่มีความเป็นเนื้อเดียวกันนี่เองที่เป็นอุปสรรคสำคัญ เพราะระบบการรีไซเคิลส่วนใหญ่ออกแบบมาเพื่อจัดการกับพลาสติกชนิดเดียวที่ผ่านการคัดแยกมาแล้ว หลายครั้งเลยที่พลาสติกกลุ่มนี้จบลงที่หลุมฝังกลบอย่างน่าเสียดาย

• ⚫ พลาสติกสีเข้ม/สีดำสนิท สวยดุ…แต่เครื่องคัดแยกมองไม่เห็น!

• เจอน้องได้ที่ไหนบ้าง? ขวดแชมพูสีดำสุดเท่ ตลับมาสคาร่าสีดำขลับ หรือกระปุกครีมสีน้ำเงินเข้ม
• ทำไมรีไซเคิลยาก? ปัญหามันอยู่ที่ “สี” นี่แหละ! โรงรีไซเคิลส่วนใหญ่มักใช้เครื่องคัดแยกแบบอินฟราเรด (NIR – Near Infrared) ซึ่งเจ้าเครื่องเนี้ยจะยิงแสงไปที่พลาสติกเพื่อดูดซับและสะท้อนกลับมาเพื่อระบุชนิดของพลาสติก แต่…พลาสติกสีดำหรือสีเข้มมากๆ มักจะใส่สาร “คาร์บอนแบล็ค” (Carbon Black) เพื่อให้ได้สีนั้น ซึ่งสารนี้มันดูดกลืนแสงอินฟราเรดไปหมดเลย ทำให้เครื่องคัดแยก “มองไม่เห็น” หรือแยกชนิดพลาสติกไม่ได้ สุดท้ายน้องพลาสติกสีเข้มก็เลยถูกคัดทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งๆ ที่เนื้อพลาสติกจริงๆ อาจจะรีไซเคิลได้แท้ๆ ปัญหานี้จึงไม่ได้เกิดจากตัวพลาสติกเองเสมอไป แต่เป็นข้อจำกัดของเทคโนโลยีการคัดแยกที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันค่ะ

🧩 2. ดีไซน์ซับซ้อน…เกินจะแยกส่วน!

บางทีตัววัสดุเองอาจจะรีไซเคิลได้นะ แต่พอมาประกอบร่างเป็นแพ็กเกจจิ้งสุดเก๋เท่านั้นแหละ…จบข่าว! เพราะดีไซน์ที่ซับซ้อน มีส่วนประกอบหลายอย่าง หรือใช้วัสดุต่างชนิดกันเยอะเกินไป ก็ทำให้น้องๆ รีไซเคิลยากขึ้นไปอีกค่ะ

• หัวปั๊มสุดเลิฟ (Pumps)🧴

• เจอน้องได้ที่ไหนบ้าง? ขวดโลชั่น ครีม รองพื้น เซรั่ม สบู่เหลว ที่มีหัวปั๊มกดๆ ทั้งหลายเลยค่ะ
• ทำไมรีไซเคิลยาก? หัวปั๊มหนึ่งอันเนี่ย ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนเล็กๆ เยอะมาก ทั้งพลาสติกต่างชนิด (เช่น PP, PE) แถมยังมีสปริงที่เป็นโลหะซ่อนอยู่ข้างในอีก!. การจะแยกชิ้นส่วนเหล่านี้ออกจากกันมันยากมากในกระบวนการรีไซเคิลทั่วไป ทำให้ส่วนใหญ่มักถูกคัดทิ้งทั้งยวง หรือถ้าหลุดเข้าไปก็อาจจะไปสร้างปัญหาให้เครื่องจักรได้. ความสะดวกสบายในการใช้งานและการปกป้องผลิตภัณฑ์ (โดยเฉพาะหัวปั๊มแบบสุญญากาศ) ที่เราชอบๆ กันนี่แหละค่ะ ที่กลายเป็นอุปสรรคสำคัญในการรีไซเคิล เพราะการออกแบบที่เน้นฟังก์ชันการใช้งานมักจะขัดแย้งกับการออกแบบเพื่อให้รีไซเคิลได้ง่าย
• คำแนะนำ ก่อนทิ้ง ควรพยายามแยกหัวปั๊มออกจากตัวขวด (ถ้าทำได้) ตัวขวด (ถ้าเป็น PET หรือ HDPE) ก็ล้างแล้วทิ้งถังรีไซเคิล ส่วนหัวปั๊ม…ถ้าแยกโลหะไม่ได้จริงๆ ก็ต้องทิ้งเป็นขยะทั่วไปจ้ะ
• หลอดบีบหลายชั้น (Multi-layer Tubes) 🌈

• เจอน้องได้ที่ไหนบ้าง? หลอดครีมกันแดด โฟมล้างหน้า ครีมทามือ ที่เนื้อหลอดดูเหมือนจะธรรมดา
• ทำไมรีไซเคิลยาก? หลอดพวกนี้บางทีมองภายนอกเหมือนพลาสติกธรรมดา แต่จริงๆ แล้วมันคือ “บรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัว” (Flexible Packaging) ที่ทำจากฟิล์มพลาสติกหลายชนิด (Multi-Material) ประกบกันเป็นชั้นๆ ด้วยกาว แต่ละชั้นก็มีคุณสมบัติต่างกัน เช่น ชั้นที่กันความชื้น ชั้นที่กันแสง ชั้นที่พิมพ์ลายสวยๆ พอวัสดุต่างชนิดมันถูกเชื่อมติดกันแน่นหนาแบบนี้แล้ว การจะดึงมันแยกออกจากกันเพื่อรีไซเคิลแต่ละชนิดนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย เพราะจุดหลอมเหลวก็ต่างกัน สาวๆ อาจจะเห็นแค่ “หลอดพลาสติก” แต่เบื้องหลังความเรียบง่ายนั้นซ่อนความซับซ้อนของวัสดุไว้ ทำให้ระบบรีไซเคิลส่วนใหญ่จัดการไม่ได้ค่ะ
• ตลับแป้ง/อายแชโดว์/บลัชออน (Compacts with mirrors/magnets) 🪞💖

• เจอน้องได้ที่ไหนบ้าง? ตลับแป้งพัฟคู่ใจ ตลับอายแชโดว์สีสวย พาเลตต์บลัชออนสุดเลิฟ
• ทำไมรีไซเคิลยาก? ปัญหาหลักๆ เลยคือ “ส่วนประกอบอื่นๆ” ที่ไม่ใช่พลาสติกล้วนๆ เช่น กระจกเงา แผ่นโลหะที่เป็นถาดใส่เนื้อผลิตภัณฑ์ หรือแม้แต่แม่เหล็กเล็กๆ ที่ช่วยให้ตลับปิดสนิท การจะแกะแยกส่วนประกอบเหล่านี้ออกจากตัวตลับพลาสติกเป็นเรื่องยากมากสำหรับระบบรีไซเคิลทั่วไป ถ้าไม่สามารถถอดแยกได้ ก็ต้องทิ้งเป็นขยะทั่วไป ส่วนประกอบเหล่านี้ถึงแม้จะมีประโยชน์ในการใช้งาน แต่ในมุมมองของโรงรีไซเคิลพลาสติกแล้ว มันคือ “สิ่งปนเปื้อน” ค่ะ ถึงแม้ตัวตลับหลักจะเป็นพลาสติกที่รีไซเคิลได้ เช่น PP หรือ PET แต่การมีชิ้นส่วนที่ไม่ใช่พลาสติกฝังอยู่ ทำให้การคัดแยกและแปรรูปอัตโนมัติทำได้ยากมากหากไม่มีการแยกชิ้นส่วนด้วยมือก่อน ซึ่งก็มีค่าใช้จ่ายสูง
• คำแนะนำ พอจะแงะกระจกหรือถาดโลหะออกได้ (อย่างระมัดระวัง!) ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ส่วนที่เป็นพลาสติก (ถ้าเป็นชนิดที่รีไซเคิลได้) เข้าสู่กระบวนการได้ แต่ถ้าแยกไม่ได้จริงๆ ก็ต้องทำใจทิ้งรวมนะจ๊ะ
• ซองจิ๋ว (Sachets) และไอเทมขนาดมินิ 🤏

• เจอน้องได้ที่ไหนบ้าง? เทสเตอร์ครีมซองเล็กๆ แชมพูซองตามโรงแรม หรือมาสคาร่าขนาดทดลอง.
• ทำไมรีไซเคิลยาก?

• เล็กเกินไป เครื่องจักรในโรงคัดแยกขยะมักจะ “มองข้าม” ของชิ้นเล็กๆ เหล่านี้ไป ทำให้มันหลุดรอดจากสายพานคัดแยกไปปะปนกับขยะอื่นๆ หรือไปจบที่หลุมฝังกลบ
• วัสดุผสม ซองเทสเตอร์ส่วนใหญ่มักทำจากพลาสติกหลายชั้นเคลือบรวมกัน (คล้ายหลอดบีบหลายชั้น) เพื่อป้องกันผลิตภัณฑ์ข้างใน ซึ่งก็รีไซเคิลยากอยู่แล้ว น้องซองจิ๋วเลยเจอปัญหาซ้ำสอง ทั้งขนาดที่เล็กเกินไปสำหรับการคัดแยกด้วยเครื่องจักร และวัสดุที่มักจะเป็นแบบผสม ทำให้รีไซเคิลยากเป็นพิเศษค่ะ

🧬 3. วัสดุผสม (Composite Materials) สวยแบบไฮบริด…แต่รีไซเคิลไม่ได้นะจ๊ะ!

นอกจากหลอดบีบหลายชั้นแล้ว ยังมีบรรจุภัณฑ์อื่นๆ ที่ใช้เทคนิค “วัสดุผสม” หรือ “คอมโพสิต” คือการเอาวัสดุมากกว่าหนึ่งชนิดมาประกอบร่างกันเพื่อคุณสมบัติพิเศษบางอย่าง เช่น เพิ่มความแข็งแรง ป้องกันความชื้น หรือยืดอายุผลิตภัณฑ์ ซึ่งคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมเหล่านี้มักต้องแลกมาด้วยความสามารถในการรีไซเคิลที่ลดลงค่ะ

• ตัวอย่างเช่น

• ถุงเติม (Refill Pouches) แบบอ่อนบางชนิด ที่ดูเหมือนพลาสติก แต่จริงๆ อาจมีชั้นของอลูมิเนียมฟอยล์บางๆ หรือไนลอนซ่อนอยู่ข้างในเพื่อรักษาคุณภาพสินค้า ชั้นเหล่านี้ช่วยป้องกันแสงและความชื้นได้ดี แต่ก็ทำให้การรีไซเคิลเป็นเรื่องยาก
• กล่องกระดาษเคลือบพลาสติก/ฟอยล์ เช่น กล่องมาสก์ชีทบางยี่ห้อที่ข้างในเคลือบมันๆ หรือกล่องยาสีฟันที่เคลือบพลาสติกบางๆ แม้ว่ากระดาษเคลือบไบโอพลาสติกจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่ถ้าเป็นการเคลือบด้วยพลาสติกทั่วไป ก็จะทำให้กระดาษนั้นรีไซเคิลยากกว่ากระดาษล้วนๆ ค่ะ สัญลักษณ์ C/PAP 84 บนกล่องน้ำผลไม้หรือกระป๋องกระดาษแข็งก็เป็นตัวอย่างของวัสดุคอมโพสิตที่รีไซเคิลยากเช่นกัน
• ทำไมรีไซเคิลยาก? เหมือนเดิมเลยจ้า! พอวัสดุมันต่างชนิดกัน ถูกผนึกรวมกันแน่นหนา การจะแยกมันออกจากกันในโรงรีไซเคิลนั้นยากมากหรือทำไม่ได้เลย ทำให้ต้องถูกทิ้งไป วัสดุเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ แต่การออกแบบทางวิศวกรรมนี้เองที่สร้างวัสดุที่ไม่สามารถแยกส่วนประกอบเพื่อนำไปรีไซเคิลได้ง่ายด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน

🤔 ส่องให้ชัด! สัญลักษณ์บนบรรจุภัณฑ์…บอกอะไรเราบ้าง? 🔍

พลิกดูหลังขวด หลังกล่องกันหน่อยเร็ว! จะเจอสัญลักษณ์ยึกยือเต็มไปหมด มาดูกันว่าแต่ละอันหมายความว่าไง จะได้ไม่สับสนกันอีกต่อไป

• ♻️ สัญลักษณ์ลูกศรสามเหลี่ยม (Mobius Loop)

• อันนี้คือพระเอกเลย! ถ้าเจอสัญลักษณ์นี้ แปลว่าบรรจุภัณฑ์นั้น “สามารถรีไซเคิลได้”
• บางทีจะมีตัวเลขอยู่ตรงกลาง (1-7) อันนั้นคือ “รหัสพลาสติก” (Resin Identification Code) ที่บอกว่าทำจากพลาสติกชนิดไหน เช่น

• เลข 1️⃣ (PETE/PET) ขวดน้ำดื่มใสๆ ขวดคลีนซิ่ง -> รีไซเคิลได้แพร่หลาย
• เลข 2️⃣ (HDPE) ขวดแชมพูทึบๆ ขวดนม -> รีไซเคิลได้แพร่หลาย
• เลข 5️⃣ (PP) ตลับแป้ง ฝาขวด -> รีไซเคิลได้บ้างเป็นครั้งคราว
• ถ้ามี % อยู่ในหรือข้างๆ Mobius Loop อันนั้นบอกว่าบรรจุภัณฑ์นี้มีส่วนผสมของวัสดุรีไซเคิลอยู่กี่เปอร์เซ็นต์
• คำเตือนสำคัญ ‼️
• การมีสัญลักษณ์ Mobius Loop ไม่ได้การันตี 100% ว่ามันจะถูกนำไปรีไซเคิลได้จริงเสมอไปนะจ๊ะ! มันแค่บอกว่า “วัสดุนี้มีศักยภาพที่จะรีไซเคิลได้” แต่จะรีไซเคิลได้จริงไหม ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยเลยค่ะ

• โรงคัดแยก/รีไซเคิลในพื้นที่ของเรารับมั้ย? บางที่อาจจะไม่รับพลาสติกบางเบอร์ หรือไม่มีเทคโนโลยีที่เหมาะสม
• ความสะอาด บรรจุภัณฑ์ต้องสะอาด ไม่มีเครื่องสำอางเหลือติดอยู่เยอะเกินไป การปนเปื้อนทำให้รีไซเคิลยากหรือไม่ได้เลย
• ความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ บางทีการรีไซเคิลวัสดุบางชนิดมันไม่คุ้มค่าที่จะทำในเชิงธุรกิจ
• สัญลักษณ์เหล่านี้เป็นเพียง ขั้นตอนแรก เท่านั้นค่ะ การรีไซเคิลได้จริงเป็นผลลัพธ์ที่ซับซ้อนจากคุณสมบัติของวัสดุ การออกแบบ พฤติกรรมผู้บริโภค (การทำความสะอาด การคัดแยก) และความสามารถของระบบจัดการขยะในแต่ละท้องถิ่น ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้บริโภคทั่วไปมักจะไม่ค่อยทราบ
• สัญลักษณ์อื่นๆ ที่ควรรู้

• รูปกระปุกเปิดฝา (PAO – Period After Opening) 🧴 บอกว่าหลังเปิดใช้แล้ว เครื่องสำอางมีอายุกี่เดือน (เช่น 6M = 6 เดือน)
• รูปเปลวไฟ (Open Flame) 🔥 บอกว่าผลิตภัณฑ์นี้ติดไฟง่ายนะจ๊ะ เก็บให้ห่างจากความร้อนและประกายไฟ
• Leaping Bunny 🐇 สัญลักษณ์สากลว่าไม่ได้ทดลองกับสัตว์

🌍 แอบดูผลกระทบ เมื่อความสวย (ของบรรจุภัณฑ์) ทำร้ายโลก 😢

เห็นแพ็กเกจจิ้งสวยๆ กองรวมกันแล้วอาจจะดูไม่เยอะ แต่พอรวมกันทั้งโลกแล้ว…มันมหาศาลเลยนะ! แล้วผลกระทบต่อโลกของเราก็น่าใจหายไม่น้อยเลยค่ะ

• สถานการณ์น่าห่วงในบ้านเรา

• ประเทศไทยเคยถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่ปล่อยขยะพลาสติกลงทะเลมากเป็นอันดับ 6 ของโลก! แม้ว่าสถานการณ์อาจจะดีขึ้นบ้าง แต่ก็ยังเป็นปัญหาใหญ่อยู่ดี
• มีการประเมินว่าคนไทยใช้พลาสติกหลักๆ (PET, HDPE, LDPE, PP) ปีละประมาณ 3.49 ล้านตัน แต่มีแค่ประมาณ 17.6% เท่านั้นที่ถูกนำกลับมารีไซเคิล ส่วนใหญ่เป็น PET ที่มีอัตราการเก็บรวบรวมเพื่อรีไซเคิลสูงที่สุด
• ปี 2565 ประเทศไทยมีขยะมูลฝอยกว่า 25.7 ล้านตัน และมีขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single-use plastics) มากกว่า 2 ล้านตันต่อปี บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้นแน่นอนค่ะ
• ทำไมถึงน่ากังวล?

• มลพิษพลาสติก ขยะพลาสติกที่ไม่ถูกจัดการอย่างถูกวิธี อาจลงเอยในแม่น้ำ ลำคลอง และทะเล ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำและระบบนิเวศอย่างรุนแรง
• สิ้นเปลืองทรัพยากร การผลิตพลาสติกใหม่ต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติ (เช่น ปิโตรเลียม) และพลังงานจำนวนมาก การที่เราทิ้งบรรจุภัณฑ์ไปโดยไม่รีไซเคิล ก็เหมือนกับการทิ้งทรัพยากรเหล่านั้นไปเปล่าๆ
• สารเคมีอันตราย ผลิตภัณฑ์ยาและเครื่องสำอางบางชนิด (รวมถึงที่หมดอายุ) อาจมีส่วนประกอบของสารเคมีอันตราย เช่น ยาฆ่าเชื้อ ยาปฏิชีวนะ ถ้าบรรจุภัณฑ์เหล่านี้ปนเปื้อนลงสู่สิ่งแวดล้อม ก็อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมาได้ จึงจำเป็นต้องแยกทิ้งในถังขยะอันตรายเท่านั้น
• การเชื่อมโยงตัวเลขสถิติที่ดูยิ่งใหญ่เหล่านี้เข้ากับบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน จะช่วยให้เราเห็นภาพชัดขึ้นว่าพฤติกรรมการบริโภคของเราแต่ละคนมีส่วนก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมในระดับที่ใหญ่ขึ้นได้ และตระหนักถึงความสำคัญของการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อย่างยั่งยืนมากขึ้นค่ะ

💡 ทริค (ไม่) ลับ ฉบับรักษ์โลก…ไม่ทำร้ายโลก! 💅

รู้ปัญหาแล้วก็อย่าเพิ่งท้อแท้นะคะซิส! เราทุกคนช่วยกันได้ มาดูวิธีที่เราจะสวยแบบใส่ใจโลกมากขึ้นกันดีกว่า การเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ของเรา สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้นะคะ

• 1. เลือกให้เป็น…มองหา “กรีน” ไอเทม 🌿

• PCR (Post-Consumer Recycled) Plastic มองหาบรรจุภัณฑ์ที่บอกว่าทำจากพลาสติก PCR คือพลาสติกที่ผ่านการใช้งานจากผู้บริโภคแล้วถูกนำมารีไซเคิลใหม่ ช่วยลดการใช้พลาสติกใหม่ได้เยอะเลยค่ะ
• พลาสติกชีวภาพ (Bioplastics) เช่น พลาสติกที่ทำจากอ้อย หรือแป้งข้าวโพด บางชนิดย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ แต่ต้องดูเงื่อนไขการย่อยสลายดีๆ นะคะ บางทีต้องใช้โรงหมักอุตสาหกรรมถึงจะย่อยสลายได้จริง
• แก้ว (Glass) 🥛 เป็นตัวเลือกที่เริ่ดมาก! เพราะรีไซเคิลได้ 100% และรีไซเคิลได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง แถมยังดูหรูหราพรีเมียมด้วย แต่อาจจะหนักและแตกง่าย ต้องระวังหน่อยเวลใช้งานและขนส่งค่ะ
• กระดาษ/กระดาษแข็ง (Paper/Cardboard) 📜 ถ้าไม่เคลือบพลาสติกหนาๆ ก็รีไซเคิลได้ง่าย ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ เดี๋ยวนี้มีกล่องกระดาษสวยๆ ดีไซน์เก๋ๆ เยอะแยะเลยค่ะ
• ไม้ไผ่ (Bamboo) 🎍 เป็นวัสดุที่โตเร็ว ยั่งยืน แข็งแรง และดูเป็นธรรมชาติมากๆ
• ลดขนาด/ลดวัสดุ (Lightweight Packaging/Minimalist Design) เลือกแบรนด์ที่ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ใช้วัสดุน้อยชิ้น ไม่เยอะสิ่ง ไม่ซับซ้อนเกินไป
• 2. ล้างก่อนทิ้ง สเต็ปเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ ✨
• ก่อนทิ้งขวดครีม ขวดแชมพู หรืออะไรก็ตามที่รีไซเคิลได้ ควรล้างคราบเครื่องสำอางที่ตกค้างออกให้หมดจดก่อนนะคะ การปนเปื้อนจากผลิตภัณฑ์ที่เหลืออยู่ทำให้กระบวนการรีไซเคิลยากขึ้น หรือทำไม่ได้เลยนะ! แค่เสียเวลาเพิ่มอีกนิดหน่อย แต่ช่วยให้บรรจุภัณฑ์ของเรามีโอกาสได้ไปต่อสูงขึ้นเยอะเลย
• 3. แยกชิ้นส่วน (ถ้าทำได้) ✂️
• ถ้าบรรจุภัณฑ์มีหลายส่วนที่ทำจากวัสดุต่างกัน เช่น ขวดพลาสติกกับฝาพลาสติก (คนละเบอร์) หรือหัวปั๊มกับขวด ถ้าเราพอจะแยกชิ้นส่วนออกจากกันได้ ก็จะช่วยให้แต่ละชิ้นถูกส่งไปรีไซเคิลได้ถูกประเภทมากขึ้น เป็นการช่วยลดภาระให้กระบวนการคัดแยกปลายทางได้อีกทางหนึ่งค่ะ
• 4. Reuse & Upcycle…เปลี่ยนขยะเป็นของ D.I.Y. สุดเก๋ 🎀

• กระปุกครีมสวยๆ เอามาใส่กิ๊บติดผม ต่างหู หรือของจุกจิกอื่นๆ ได้สบายๆ
• ขวดโทนเนอร์เก๋ๆ หรือขวดเซรั่มทรงสวย เอามาเป็นแจกันดอกไม้เล็กๆ ตั้งโชว์ก็น่ารักนะคะ
• แก้วเทียนหอมที่ใช้หมดแล้ว ล้างให้สะอาด เอามาใส่แปรงแต่งหน้า ปากกา หรือดินสอเขียนคิ้วก็ได้
• มาสคาร่าที่หมดอายุแล้ว อย่าเพิ่งทิ้ง! ล้างหัวแปรงให้สะอาด เอามาเป็นแปรงปัดคิ้วให้ได้ทรงสวยเป๊ะได้นะ
• ซ่อมเครื่องสำอางที่แตก เช่น แป้งพัฟแตก ก็สามารถซ่อมได้ง่ายๆ ด้วยแอลกอฮอล์ ไม่ต้องทิ้งให้เสียของ
• 5. สนับสนุนแบรนด์หัวใจสีเขียว 💚 และทางเลือกใหม่ๆ

• มองหาแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม หลายแบรนด์เริ่มหันมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น มีโครงการรับคืนบรรจุภัณฑ์เก่า (เช่น MAC, Kiehl’s) หรือตั้งเป้าลดขยะอย่างจริงจัง (เช่น Biossance, Caudalie) การเลือกซื้อจากแบรนด์เหล่านี้ก็เป็นการส่งสัญญาณว่าเราสนับสนุนแนวทางรักษ์โลกนะคะ
• Refill Station เติมได้ไม่รู้จบ เดี๋ยวนี้เริ่มมีร้านหรือแบรนด์ที่มีจุดให้เติมผลิตภัณฑ์ (Refill Station) พวกแชมพู สบู่เหลว หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ช่วยลดการใช้ขวดใหม่ได้เยอะเลยค่ะ
• เลือกซื้อขนาดที่เหมาะสม ถ้าไม่แน่ใจว่าจะใช้หมดมั้ย ลองขนาดเล็กก่อน แต่ถ้าเป็นไอเทมที่ใช้ประจำ การซื้อขนาดใหญ่อาจจะช่วยลดจำนวนบรรจุภัณฑ์โดยรวมได้ เมื่อเทียบกับการซื้อขนาดเล็กหลายๆ ครั้งค่ะ

💖 สรุปส่งท้าย สวยเลือกได้…โลกก็เลือกได้! 💖

เป็นยังไงกันบ้างคะสาวๆ? เรื่องบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางกับการรีไซเคิลเนี่ย ไม่ได้ยากอย่างที่คิดใช่ไหมล่ะ 😊 ถึงแม้ว่าจะมีบรรจุภัณฑ์หลายแบบที่ยังรีไซเคิลไม่ได้ หรือรีไซเคิลยาก แต่การที่เรามีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น ก็ช่วยให้เรา “เลือก” ได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น

จำไว้ว่าทุกการเลือกซื้อของเรามีผลนะคะ! การสนับสนุนแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม การลดการใช้พลาสติกที่ไม่จำเป็น การจัดการขยะเครื่องสำอางอย่างถูกวิธี ถึงจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่พอหลายคนช่วยกัน มันก็สร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ให้โลกของเราได้

มาเป็นสาวสวยยุคใหม่ ที่ไม่เพียงแต่ดูแลตัวเองให้สวยเป๊ะ แต่ยังใส่ใจดูแลโลกใบนี้ให้น่าอยู่ไปพร้อมๆ กันนะคะ! เริ่มจากสิ่งเล็กๆ ใกล้ตัวเรานี่แหละค่ะ You go, green girl! ♻️✨ แล้วพบกันใหม่กับสาระดีๆ เพื่อสาวๆ แบบเรานะคะ บ๊ายบายค่าาา 👋💕